ต่างกันมากไหม ผลงานในลีกของ แมนยู ช่วงก่อนกับหลังมี บรูโน่

ต่างกันมากไหม

ต่างกันมากไหม ไม่มีผู้ใดกล้าปฏิเสธว่าการเข้ามาของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส มิดฟิลด์ชาวโปรตุกีสทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ส่งผลงานโดยรวมดียิ่งขึ้นแบบหน้ามือเป็นหลังมือ

ต่างกันมากไหม ความยอดเยี่ยมของ บรูโน่ ถึงขนาดทำให้บางบุคคลคิดว่าหากขาดเขาไปแล้วนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็จะมีภาวะที่ชั่วร้ายกว่าในขณะนี้มาก รวมทั้งบางทีอาจจะถึงกับขนาดเปลี่ยนเป็นกลุ่มระดับกึ่งกลางตารางคะแนนไปเลยด้วย แน่ๆ มันอาจก่อให้ โอเล่ กุนท้องนาร์ โซลชา ไม่มีงานทำไปตั้งนานแล้วด้วยก็ได้

ต่างกันมากไหม

ดังนี้ เพื่อแต่ละคนวินิจฉัยได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆรึเปล่า วันนี้พวกเราเลยมีตัวเลขผลงานใน พรีเมียร์ลีก ของ แมนฯ ยูไนเต็ด สมัยของ โซลชา ในตอนระหว่างก่อนกับข้างหลังมี บรูโน่ มาเปรียบให้มองเห็นกันแบบชัดๆไปเลย ทดลองไปดูกันเลยดีกว่าว่ามันแตกต่างมากน้อยแค่ไหน

แต่เดิม แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การวางแท็กติกของ โซลชา ก็เป็นกลุ่มที่มีสถิติการทำประตูดีในระดับหนึ่งอยู่แล้ว เนื่องจากว่าสามารถยิงได้ 72 เกมจากการลงเล่นในลีก 45 นัดหมาย กระทั่งทำให้มีค่าเฉลี่ยกระบวนการทำประตูอยู่ที่ 1.6 ลูกต่อเกม ข่าวกีฬาวันนี้

อย่างไรก็แล้วแต่ การเข้ามาของ บรูโน่ ก็ช่วยทำให้ปรับเกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ดูดีขึ้นไปอีกจนกระทั่งขั้นยิงได้ 86 ประตูจาก 43 นัดหมาย คิดเป็นค่าถัวเฉลี่ยนัดละ 2 ลูกอย่างยิ่งจริงๆ ซึ่งในปริมาณ 86 ประตูที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำเป็นตั้งแต่แมื่อที่ บรูโน่ ย้ายเข้ามาอยู่กับกลุ่มนั้น มันก็ได้ผลหน้าที่ยิงเองของดาวเตะชาวโปรตุๆกีส 24 ประตู หรือก็คิดเป็น 27.90 เปอร์เซ็นต์ร่วมกัน

ถึงแม้ว่า บรูโน่ จะไม่ได้ถอยมาช่วยเกมรับเป็นหลัก แม้กระนั้นการครอบครองบอลที่ดีของเขาก็ทำให้กลุ่มแทงอลได้ยาก ซึ่งมันก็ช่วยทำให้กลุ่มไม่โดนบุกใส่มากเท่าไรนักด้วย ส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียไปเพียงแต่ 39 ลูกนับจากที่เขามาอยู่กับกลุ่ม คิดเป็นค่าเฉลี่ย 0.9 ลูกต่อเกม แถมยังเป็นการเก็บคลีนชีทได้ถึง 21 นัดหมาย

ตรงกันข้าม ก่อนหน้าที่ บรูโน่ จะมาใส่เสื้อสีแดง กลุ่มของ โซลชา ทิ่มอลกึ่งกลางสนามกันกล้วยๆจนถึงทำให้โดนบุกใส่มากพอสมควร และก็โน่นก็มีส่วนทำให้กลุ่มเสียไปถึง 54 ประตู คิดเป็นเฉลี่ย 1.2 ลูกต่อนัดหมาย รวมทั้งเป็นการเก็บคลีนชีทได้เพียงแค่ 9 เกมเพียงแค่นั้น

21 เกม เป็นปริมาณเกมลีกที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ในสมัยของ โซลชา เก็บชัยได้ ถ้าหากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็อยู่ที่เพียงแค่ 46.7 เปอร์เซ็นต์แค่นั้น หรือในเรื่องที่คิดเป็นค่าถัวเฉลี่ยปริมาณแต้มต่อ 1 เกมก็อยู่ที่เพียงแค่ 1.64 คะแนนต่อนัดหมาย

ผลงานดังกล่าวมาแล้วข้างต้นจัดว่าต่างกับภายหลังที่มี บรูโน่ เป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าตั้งแต่เซ็นสัญญากับหน้าแข้งชาวโปรตุกีส แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ชนะในลีกได้ถึง 58.1 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่ชนะไป 25 เกมจากการลงเล่น 43 นัดหมาย ส่วนค่าเฉลี่ยแต้มต่อเกมก็มากถึง 2.06 คะแนนต่อนัดหมายอย่างยิ่งจริงๆ

ต่างกันมากไหม

สปอร์ติ้ง ลิสบอน จำต้องขอบพระคุณความยอดเยี่ยมของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่ช่วยให้พวกเขาได้เงินมากขึ้นตลอด ปัจจุบัน แมนฯ ยูไนเต็ด จัดเตรียมชำระเงินอีก 4.2 ล้านปอนด์ให้สังกัดเดิมเก่านักฟุตบอล แม้เขาเอารางวัลหน้าแข้งดีพีเอฟเอ ซึ่งฤดูกาลนี้ได้โอกาสลุ้นอย่างยิ่งจริงๆ ข้างหลังทำผลงานสะดุดตาเป็นสง่าอย่างมาก

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จัดเตรียมควักกระเป๋าจ่ายเงินค่าตอบแทน บรูโน่ แฟร์นันด์ส จอมทัพกลุ่มชาติโปรตุเกส ให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน มากขึ้น 4.2 ล้านปอนด์ (ราว 159.6 ล้านบาท) หากนักเตะได้รับรางวัลผู้เล่น เยี่ยมยอดที่ปีของสัมพันธ์นักเตะอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ)

แฟร์นันด์ส โชว์ฟอร์มได้เด็ดดวงนับจากย้ายมาอยู่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟอร์ด เมื่อม.ค.ปี 2020 ด้วยค่าตอบแทน 46.6 ล้านปอนด์ (ราว 1,770 ล้านบาท) และก็ผลงานของเขายังยอดเยี่ยมตลอดโดยในช่วงฤดูกาลนี้เจ้าตัวซัดไปแล้ว 22 ประตู กับ 12 แอสซิสต์ ตลอดทุกรายการให้ “ผีแดง” แล้วก็มีความเกี่ยวข้องกับ 25 ประตูในเกมลีกของแมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งไม่มีผู้เล่นคนใดกันในลีกทำเป็นเลย

ด้วยผลงานชิ้นโบว์แดงขนาดนี้ทำให้ สปอร์ติ้ง ได้รับผลบุญไปด้วย เนื่องมาจากส่วนหนึ่งส่วนใดในข้อตกลงสัญญาซื้อขายที่ทำเอาไว้กับ แมนฯ ยูฯ กล่าวว่าพวกเขาต้องง่ายเงินมากขึ้นอีกหลายล้านปอนด์ รวมทั้งหนึ่งในซึ่งก็คือจำนวนเงินปริมาณ 4.2 ล้านปอนด์ ถ้า แฟร์นันด์ส ได้รับเลือกเป็นหน้าแข้งเยี่ยมที่ปีพีเอฟเอ

ยิ่งไปกว่านี้ สมาพันธ์ผู้ครอบครองแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี 20 ยุค ยังจำเป็นต้องชำระเงินในปริมาณที่เสมอกันอีกรอบถ้าหากว่า ผู้เล่นคนสำคัญเลือดโปรเหม็นตุกีส วัย 26 ปี ได้คะแนนโหวตติดหนึ่งในสามรางวัลบัลลงดอร์ ของแมกกาซีนฟร้องซ์ฟุตบอล

กลุ่มของผู้จัดการทีมโอเล กุนนาร์ โซลชา เพิ่งจะควักกระเป๋าจ่ายเงินจำนวน 4.2 ล้านปอนด์ให้กับ สปอร์ติ้ง 2 ครั้งก่อนหน้านี้ เพราะนักฟุตบอลลงเล่นตัวจริงครบ 25 เกม แล้วก็นำชมรมคว้าโควตาไปเล่นศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

You may have missed